เวลานึกถึงโรงเรียนปัญญาประทีป จะนึกถึงการได้ใช้เวลาร่วมกับกัลยาณมิตรทุกคนในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน รุ่นน้อง รุ่นพี่ คุณครู พี่ๆ พนักงานที่ช่วยดูแล ทุกคนช่วยกันร่วมสร้างความทรงจำที่สนุกสนานและประสบการณ์ที่ดี ที่ไม่อาจลืมของช่วงวัยรุ่นช่วงต้นได้ค่ะ และสิ่งที่ชอบในโรงเรียนคือวิชาตื่นรู้ กิจกรรมออกกำลังกาย และวัฒนธรรมการให้กินผักค่ะ เป็นสิ่งที่ชีวิตหนูที่ถ้าไม่ได้เข้ามาที่นี่ น่าจะไม่ได้เฉียดเข้ามาใกล้แน่ๆ รู้สึกขอบคุณที่มีกิจกรรมเหล่านี้ ช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจของหนูแข็งแรงมากขึ้น
ที่ขาดไม่ได้คือหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสจากที่อื่น ทั้งช่วงก่อนเข้าและหลังจบจากโรงเรียนค่ะ ข้อสำคัญที่หนูได้เรียนรู้คือ การมีสติ รู้ทันจิตใจและความคิดตนเอง และเข้าใจความไม่เที่ยงของสังขารค่ะ หลักคำสอนพวกนี้เหมือนได้ช่วยพัฒนาทำให้หนูมีภูมิ มีจิตใจที่เติบโตมากขึ้น คาดหวังกับสิ่งต่างๆในชีวิตลดลงตามหลักความไม่เที่ยง แต่ถึงแม้ในบางครั้งที่ยังเหลือความคาดหวังอยู่ แล้วบังเอิญความคาดหวังนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง ข้อคำสอนข้ออื่นๆ ก็จะช่วยให้หนูกลับมาอยู่กับตัวเอง ดูอารมณ์ว่าตอนนี้เรากำลังรู้สึกอะไร มีสติว่าเราแก้ไขปัญหา แล้วจัดการอย่างไรต่อไปค่ะ
บ่อยครั้งที่ในชีวิตการเรียนของหนูมักจะพบกับความเหนื่อย ท้อและหมดกำลังใจ จากการที่ต้องคอยอ่านหนังสือ สอบ ทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ แล้วเมื่อมองไปที่เพื่อนคนอื่น ก็มักจะรู้สึกน้อยใจอยากได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นช่วงกลางแบบคนอื่น อยากได้ไปเที่ยวเล่นหลังเลิกเรียน อยากแต่งตัวชุดไปรเวทวันเสาร์ อาทิตย์ แล้วเมื่อนั้นแหละค่ะ ก็จะรู้สึกตัวว่าเรากำลังคิดฟุ้งซ่าน ไม่อยู่กับปัจจุบัน
นี่คือช่วงที่สิ่งที่ได้เรียนรู้จากโรงเรียนจะมาช่วยชีวิตหนูมากที่สุดค่ะ ช่วงใกล้สอบ นั่งอยู่หน้าโต๊ะกระจก สายตามองเข้าไปในกระจก แต่ความคิดลอยไปไกลถึงต่างประเทศ เป็นเช่นนี้ครู่ใหญ่และเมื่อจิตใจหนูเบื่อหน่ายกับการฟุ้งซ่าน หนูก็จะสามารถกลับมารู้สึกตัวว่ากำลังคิดเพ้อไปไกลควรกลับมาอยู่กับปัจจุบัน ทำสิ่งที่ควรทำ ณ ตอนนี้ให้ดีที่สุดก่อน แล้วเมื่อสามารถผ่านมันไปได้เราก็จะสามารถได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการเองค่ะ
