ตลอด 4 วัน 3 คืน ของกิจกรรมจิตอาสาครู ประจำปีการศึกษา 2566 เป็นช่วงเวลาที่ครูทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครูผู้สอน ครูฝ่ายสนับสนุน รวมทั้งผู้บริหาร ได้ร่วมกันทำกิจกรรมดีๆ เพื่อสร้างประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน พร้อมกระชับความสัมพันธ์ ความรัก ความสามัคคี ความเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันให้เพิ่มมากขึ้น
เริ่มต้นวันแรก (1 เมษายน 2567) ช่วยกันทำจิตอาสาทำความสะอาดลำน้ำที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ก่อนเดินทางสู่ที่พักที่จังหวัดนครนายก
วันที่สอง (2 เมษายน 2567) กิจกรรมสัมพันธ์โดยคุณครูทุกคนมีส่วนร่วมในการออกแบบด้วยการแบ่งกลุ่มให้คนในกลุ่มคละกันตามความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอายุงาน ลักษณะงาน ตำแหน่ง โดยมีเวลาให้วางแผนออกแบบกิจกรรมกันล่วงหน้าก่อนวันเดินทางมาทริปตามโจทย์ที่กำหนด และเมื่อถึงวันจริง ครูแต่ละกลุ่มต่างสร้างสรรค์กิจกรรมกันอย่างเต็มที่ มีทั้งความสนุก เสียงหัวเราะ เห็นถึงพลังงามๆ ของครูทุกคนจริงๆ และเมื่อจบกิจกรรมเราได้ถอดบทเรียนร่วมกัน โดยแต่ละกลุ่มต่างมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน มีตัวอย่างบทเรียนจากกิจกรรมกลุ่มหนึ่งมาเล่าให้ฟัง …
กลุ่มนี้เค้าเริ่มต้นจากให้ทุกคนหาสิ่งของรอบตัวที่สื่อถึงความเป็นตัวเอง ให้เพื่อนทุกคนในกลุ่มดู และจับวางตามจุดต่างๆ ที่กำหนด หลังจากนั้นทุกคนต่างได้รับหน้าที่ของตน แทนส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น แขน ตา ปาก แต่ละคนทำหน้าที่ได้อย่างเดียว ทุกคนต้องปิดตา คนทำหน้าที่ตาเท่านั้นที่ไม่ต้องปิดตา ส่วนคนทำหน้าที่ปากเท่านั้นที่จะพูดได้ แต่ตามองไม่เห็น ทุกคนในกลุ่มต้องต่อแถวกันเดินไปพร้อมกันเพื่อให้คนเป็นแขนไปหยิบของตามจุดมาให้ครบ หาวิธีสื่อสารกันเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ
… เริ่มต้นจากการอธิบายของผู้นำกิจกรรม ครูบางคนเริ่มหนักใจ เพราะดูมีรายละเอียด มีข้อจำกัด แถมอุปสรรคระหว่างทาง ทั้งไม้ที่ขวาง ก้อนหินก้อนกรวดบนทราย รากไม้ และอื่นๆ อีกมาก แต่สุดท้ายทุกทีมก็สามารถผ่านภารกิจได้ทั้งหมดอย่างปลอดภัย
บทเรียนนี้สอนอะไร..ความสามัคคีมีพลังจริงที่สุด แต่ต้องไม่ใช่สามัคคีแบบพาล ที่พากันนำไปสู่เรื่องที่ไม่ดี แต่เราสามัคคีกันด้วยพลังงาม ช่วยกันก้าวผ่านอุปสรรค กิจกรรมนี้ทำให้เห็นได้ว่า ทุกคนในองค์กรที่ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ทุกคนเป็นจิ๊กซอว์ของกันและกัน เมื่อเราเชื่อมั่นและเข้าใจกันและกัน ถึงแม้จะมีอุปสรรค มีปัญหาต่างๆ เราก็จะผ่านไปด้วยกัน ช่วยกันนำพาไปสู่เป้าหมายด้วยสติปัญญาและความสามัคคีที่มีพลังของทุกคน
เข้าสู่วันที่สาม (3 เมษายน 2567) กับกิจกรรมบำบัดที่เราได้รับความเมตตาจาก ครูดล ธนวัชร์ เกตุวิมุติ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโยคะภาวนา ที่เมื่อได้รับการติดต่อก็พยายามจัดสรรคิวงานมาร่วมทริปกับคุณครูปัญญาประทีป กิจกรรมนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ครูได้รับประโยชน์กันมากๆ หลังจากสองวันแรกที่ต้องใช้แรงกายกันมากหน่อย ในวันนี้ก็เป็นวันแห่งการบำบัดผ่อนคลาย การกลับมาอยู่กับกายใจของตนเอง อยู่กับลมหายใจ พร้อมด้วยการนำศาสตร์ที่ครูดลได้ใช้เวลาศึกษาไม่ว่าจะเป็นโยคะภาวนา และ Crystal Bowl บำบัดด้วยพลังเสียง ที่ช่วยเสริมการบำบัดให้ดียิ่งขึ้น ทางโรงเรียนต้องขอขอบคุณครูดลมากๆ ที่สละเวลาให้กับพวกเราในครั้งนี้
และในสุดท้าย (4 เมษายน 2567) บรรยากาศการล้อมวงคุยกันอย่างเป็นกัลยาณมิตร นับเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เพราะหากอยู่ที่โรงเรียน ครูทุกคนอาจจะยุ่งกับงาน เวลาในการพูดคุยล้อมวงแบบนี้คงมีไม่มากนัก และบรรยากาศอาจจะไม่เอื้ออำนวยเท่ากับการมาทริป วงในวันนี้อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและหยาดน้ำตา เริ่มจากการส่งต่อความห่วงใยที่อยากบอกใครๆ ก็ได้ในวง การสะท้อนความรู้สึกต่อการร่วมทริป และการเป็นหนึ่งในสมาชิกของชุมชนปัญญาประทีปแห่งนี้ ช่างเป็นการปิดท้ายกิจกรรมทริปครูที่ดีต่อใจ ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายพักผ่อน กลับภูมิลำเนาดูแลครอบครัว เติมพลังกลับมาดูแลตัวเอง นักเรียน เพื่อนร่วมงาน และชุมชนกัลยาณมิตรแห่งนี้ต่อไป ขอบคุณครูร่วมทริปทุกคนสำหรับความรู้สึกดีๆ ตลอดทริป รวมทั้งช่วยเก็บภาพบรรยากาศที่แสนประทับใจในกิจกรรมนี้